TPCC visited the famous Fish Harbor in SAMUT SAKHON
11th, February, 2023′
TPCC Delegation under the leadership President Mr.Abdul Ghaffar Warsi visited the famous Fish Harbor in SAMUT SAKHON Province, Thailand.
One Police squad received the delegation and guide with full protocol to the Harbor,
Governor Samut Sakhon Province
H.E. NARONG RAKOI with the Vice Governor, and top officials Welcomed at Harbor.
The President Samut Sakhon Chamber of Commerce
Mr.Chatip Thangkulpaisal
President Samut Sakhon FISHERIES (Industrial) Association
Warmly WELCOMED to the TPCC Delegation.
After a brief visit to the Harbor and witnessed the process a meeting was held in Governor office.
A detailed briefing about the verity of Fishes 🐠🐟
and available processing facilities, use of new technology was presented,
Mr. Farrukh Sharif
TRADE & INVESTMENT Councillor Pakistan Embassy Bangkok brief to the meeting about available opportunities and infrastructure in Pakistan.
After a detailed presentation a QUESTION & ANSWER Session was held.
Both sides took keen interest to enhance bilateral trade between Thailand and Pakistan.
President TPCC elaborate
the business ties in both the Nations.
Secretary General TPCC
Mr.M.Asif Majeed highlights the affective role of TPCC to bridge between Thailand and Pakistan
After a very successful meetings
a delicious Lunch was hosted by the
OCEAN FISHERY (Thailand) Co.,Ltd.
We are very pleased and greatful to H.E.GOVERNOR Samut Sakhon, Vice Governor and all of the Officials for their very remarkable hospitality and provide all of the delegates a police guided special protocol.
We are Thankful to the worthy Presidents of Samut Sakhon CHAMBER
and FISHERIES ASSOCIATION for their kind coordination to made it a fruitful session.
Best regards,
Mohammad Asif Majeed
Secretary General, TPCC
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 นายอับดุล กัฟฟาร์ ว๊ารซี่ ประธานหอการค้าไทย-ปากีสถาน พร้อมด้วย Mr.Muhammad Farrukh Shariff ที่ปรึกษาด้านการค้าและการลงทุน สถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ประจำประเทศไทย นำคณะหอการค้าไทย-ปากีสถาน เดินทางไปศึกษาดูงานด้านการประมง และประชุมปรึกษาด้านการค้าและการลงทุน ณ สะพานปลา สมุทรสาคร
โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายอาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายศุภชาติ ชาสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การสะพานปลา, ดร.อภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร, นายนคร หาญไกรวิไลย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร, นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดสมุทรสาคร, ตำรวจ พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ
Mr.Muhammad Farrukh Shariff ที่ปรึกษาด้านการค้าและการลงทุน สถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ประจำประเทศไทย ได้นำเสนอข้อมูลด้านการค้าและการกิจการในปากีสถาน ซึ่งข้อมูลของปากีสถานนั้น มีประชากรมากเป็นอันดับ 5 ของโลกประมาณ 220 ล้านคนเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอินโดนีเซีย ขนาดของประเทศเป็น 2 เท่าของประเทศไทย มีประชาคมกลุ่มคนหนุ่มสาวค่อนข้างมากประมาณ 64% ของประชากรทั้งหมดและมีประชากรแรงงานประมาณ 59.7 ล้านคน โดยในรอบ 50 ปีที่ผ่านมาไทยและปากีสถานมีความมีความใกล้ชิดกันมาก เพราะเป็นตลาดกลางการส่งออกปลาและอาหารทะเล ซึ่งประเทศไทยนั้นก็นำเข้าปลาและอาหารทะเลและน้ำมันจากปากีสถาน ส่วนปากีสถานได้มีการนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์เคมีภัณฑ์และยางรวมทั้งอื่นๆจากไทยด้วย
ส่วนสาเหตุที่อยากให้มีการเข้าไปลงทุนที่ประเทศปากีสถาน เนื่องจากว่าประชากรค่อนข้างมีอายุน้อย จำนวนชนชั้นกลางกำลังขยายตัวและเป็นประเทศที่รองรับการค้าเสรี อีกทั้ง ปากีสถานมีข้อตกลงกับประเทศจีนโดยที่จีนกำลังจะลงทุนขนาดใหญ่ในปากีสถานด้วย ปากีสถานยังเป็นประเทศที่สามารถเชื่อม 3 ทวีป 68 ประเทศ และ GDP ก็เป็นสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก มีบริษัทข้ามชาติกว่าพันบริษัทที่เข้าไปลงทุน
ในเรื่องการส่งออกอาหารทะเลนั้น เป็นแบบจับมาได้แล้วขายไป มีเรือขนาดเล็กประมาณ 14,000 ลำ และมีเรือขนาดกลางและใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนธุรกิจที่อยากเชิญชวนนักลงทุนไปทำคือธุรกิจเกี่ยวกับห้องเย็นที่ยังมีไม่มาก และวันนี้ที่เดินทางมาสมุทรสาครก็เพราะอยากมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจห้องเย็นในสมุทรสาครด้วย และปีที่แล้วก็ยังมีบริษัทเกี่ยวกับอาหารทะเลและห้องเย็นรายใหญ่ในสมุทรสาครเข้าไปลงทุนในปากีสถานซึ่งเป็นการเพาะเลี้ยงปลานิล และจะขยายวงกว้างไปสู่ธุรกิจเกี่ยวกับกุ้ง นอกจากนั้นปากีสถานยังมีการส่งออกเกี่ยวกับผ้าทอ บริษัทยา และบริษัทผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดด้วย
โดยหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลด้านต่างๆแล้วนั้น ทางผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ของสมุทรสาคร ยังได้มีการแลกเปลี่ยนและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการร่วมลงทุนทางธุรกิจในอนาคตต่อไป
GALLARY
